วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2553
วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553
วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2553
ครั้งที่ 12
ประโยชน์ในการทำ e-Workflow
1. ลดปริมาณกระดาษ รักษาสิ่งแวดล้อม (เมื่อไม่ใช้กระดาษ) ลดค่าใช้จ่าย เก็บข้อมูลง่าย เนื่องจากเก็บข้อมูลเป็นไฟล์ (Database) ไม่ต้องเสียพื้นที่ในการเก็บเอกสาร ประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปส่งเอกสาร
2. ลดงานเอกสาร
1. ลดปริมาณกระดาษ รักษาสิ่งแวดล้อม (เมื่อไม่ใช้กระดาษ) ลดค่าใช้จ่าย เก็บข้อมูลง่าย เนื่องจากเก็บข้อมูลเป็นไฟล์ (Database) ไม่ต้องเสียพื้นที่ในการเก็บเอกสาร ประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปส่งเอกสาร
2. ลดงานเอกสาร
ต่อจากวันที่ 6/1/10 ครั้งที่ 11.1
3. เลือกระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เลือกโปรแกรมที่จะพัฒนา ซึ่งโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนา
ระบบมีหลายเทคโนโลยี เช่น Lotus Notes, Web (เช่น เขียนโปรแกรม PHP, ASP, DotNet, etc. ไม่ต้องตกใจนะครับว่ามันคืออะไร ในขั้นตอนนี้เราสามารถใช้ หรือแผนก IT ของบริษัทช่วยได้ แต่ต้องทำขั้นตอนที่ 1 กับ 2 ให้เรียบร้อยเสียก่อน โดยการเลือกระบบต้องดูที่ Environment ของบริษัทว่าใช้ระบบอะไรอยู่ เช่นถ้าบริษัทไหนใช้ระบบ Lotus Notes ก็จะต้องมี User ID ในการเข้าระบบด้วย แต่ผมแนะนำให้ทำบน Web ดีกว่า
4. ทำระบบ คุณอาจจะเลือกได้โดยใช้ Outsource, Mfatix Software House (http://www.mfatix.com), IT Department, Student Trainee, Programmer Freelance หรืออื่นๆ (อย่าลืมเรื่อง Budget ก่อนการทำ e-Workflow)
5. ทดสอบระบบ หลังจากทำระบบเสร็จแล้วก็ต้องทดสอบระบบสักระยะ ให้แน่ใจว่าใช้ได้จริงๆ จึงใช้ทั้งองค์การ
6. ติดตามผลและปรับปรุงระบบ เมื่อใช้งานแล้วต้องรับ Feedback จากพนักงานเพื่อนำมาปรับปรุงระบบ e-Workflow ให้ดียิ่งขึ้น
ระบบมีหลายเทคโนโลยี เช่น Lotus Notes, Web (เช่น เขียนโปรแกรม PHP, ASP, DotNet, etc. ไม่ต้องตกใจนะครับว่ามันคืออะไร ในขั้นตอนนี้เราสามารถใช้ หรือแผนก IT ของบริษัทช่วยได้ แต่ต้องทำขั้นตอนที่ 1 กับ 2 ให้เรียบร้อยเสียก่อน โดยการเลือกระบบต้องดูที่ Environment ของบริษัทว่าใช้ระบบอะไรอยู่ เช่นถ้าบริษัทไหนใช้ระบบ Lotus Notes ก็จะต้องมี User ID ในการเข้าระบบด้วย แต่ผมแนะนำให้ทำบน Web ดีกว่า
4. ทำระบบ คุณอาจจะเลือกได้โดยใช้ Outsource, Mfatix Software House (http://www.mfatix.com), IT Department, Student Trainee, Programmer Freelance หรืออื่นๆ (อย่าลืมเรื่อง Budget ก่อนการทำ e-Workflow)
5. ทดสอบระบบ หลังจากทำระบบเสร็จแล้วก็ต้องทดสอบระบบสักระยะ ให้แน่ใจว่าใช้ได้จริงๆ จึงใช้ทั้งองค์การ
6. ติดตามผลและปรับปรุงระบบ เมื่อใช้งานแล้วต้องรับ Feedback จากพนักงานเพื่อนำมาปรับปรุงระบบ e-Workflow ให้ดียิ่งขึ้น
วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553
E-Workflow ครั้งที่ 11
e-Workflow คืออะไร?คือ การใช้ระบบสารสนเทศมาช่วยในการทำให้ระบบการอนุมัติเอกสารต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การจัดทำระบบ e-Workflow
1. ต้องเลือกงานที่จะนำมาทำ e-Workflow ในงาน HR นั้น มีงานเอกสารมากมาย อาทิเช่น แบบฟอร์มการขอออกไปฝึกอบรม, แบบฟอร์มการเลื่อนตำแหน่งงาน, แบบฟอร์มการลางาน และอื่นๆ อีกมากมาย ต้องเลือก Flow ที่มีผลกระทบต่อองค์การที่สุดก่อน จะได้ช่วยลดงานได้มาก
2. ศึกษาสายงานที่จะต้องอนุมัติและขั้นตอนการส่งแบบฟอร์ม เราต้องศึกษาเอกสารที่จะนำมาทำเป็น e-Workflow ว่ามีลำดับขั้นตอนการอนุมัติเป็นอย่างไร จะส่งเอกสารให้ใครก่อน เขียน Flow การอนุมัติตั้งแต่ต้นจนจบ ศึกษาระบบในสั้นที่สุดและดีที่สุด คิดถึงผลเมื่อการอนุมัติเสร็จสิ้นจะนำเอาข้อมูลไปเก็บไว้ที่ใด ข้อมูลต่างๆ ที่จะต้องเก็บข้อมูลไว้มีอะไรบ้างเช่น ต้องเก็บ ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์ติดต่อ (ออกแบบ Database)
การจัดทำระบบ e-Workflow
1. ต้องเลือกงานที่จะนำมาทำ e-Workflow ในงาน HR นั้น มีงานเอกสารมากมาย อาทิเช่น แบบฟอร์มการขอออกไปฝึกอบรม, แบบฟอร์มการเลื่อนตำแหน่งงาน, แบบฟอร์มการลางาน และอื่นๆ อีกมากมาย ต้องเลือก Flow ที่มีผลกระทบต่อองค์การที่สุดก่อน จะได้ช่วยลดงานได้มาก
2. ศึกษาสายงานที่จะต้องอนุมัติและขั้นตอนการส่งแบบฟอร์ม เราต้องศึกษาเอกสารที่จะนำมาทำเป็น e-Workflow ว่ามีลำดับขั้นตอนการอนุมัติเป็นอย่างไร จะส่งเอกสารให้ใครก่อน เขียน Flow การอนุมัติตั้งแต่ต้นจนจบ ศึกษาระบบในสั้นที่สุดและดีที่สุด คิดถึงผลเมื่อการอนุมัติเสร็จสิ้นจะนำเอาข้อมูลไปเก็บไว้ที่ใด ข้อมูลต่างๆ ที่จะต้องเก็บข้อมูลไว้มีอะไรบ้างเช่น ต้องเก็บ ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์ติดต่อ (ออกแบบ Database)
วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2553
e-Workflow กับงาน HR ครั้งที่ 10
ในโลกปัจจุบันองค์การต่างๆ มีมาตรฐานมาควบคุมการทำงานเป็นจำนวนมาก เพราะต้องใช้เก็บเป็นหลักฐานในการตรวจสอบ และเอกสารบางอย่างก็ต้องมีการอนุมัติตามขั้นตอนของนโยบายบริษัท ดังนั้นในการเก็บหลักฐานต่างๆ ก็ต้องเสียพื้นที่ในการเก็บเสียเวลาในการรออนุมัติ ในปัจจุบันได้มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาและช่วยในการทำงานต่างๆ ได้สะดวกขึ้น และในงาน HR มีเอกสารที่ต้องอนุมัติมากมาย เพราะฉะนั้น ถ้าเราได้นำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยในการทำงานเอกสารที่จะต้องมีการอนุมัติ จะทำให้งานนั้นรวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น
วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2553
มาเพิ่มเติมต่อ ครับ ครั้งที่ 9.2
5.ทดสอบระบบ หลังจากทำระบบเสร็จแล้วก็ต้องทดสอบระบบสักระยะ ให้แน่ใจว่าใช้ได้จริงๆ จึงใช้ทั้งองค์การ6.ติดตามผลและปรับปรุงระบบ เมื่อใช้งานแล้วต้องรับ Feedback จากพนักงานเพื่อนำมาปรับปรุงระบบ e-Workflow ให้ดียิ่งขึ้นประโยชน์ในการทำ e-Workflow1.ลดปริมาณกระดาษ รักษาสิ่งแวดล้อม (เมื่อไม่ใช้กระดาษ) ลดค่าใช้จ่าย เก็บข้อมูลง่าย เนื่องจากเก็บข้อมูลเป็นไฟล์ (Database) ไม่ต้องเสียพื้นที่ในการเก็บเอกสาร ประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปส่งเอกสาร2.ลดงานเอกสาร
HAPPY NEW YEAR ^()^
HAPPY NEW YEAR ^()^
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)